(0)
หลวงพ่อกล้าย วัดหงษ์รัตนาราม พิมพ์พระสมเด็จเนื้อดำ เนื้อผงใบลาน 2490






รายงานผลโหวต

จากรูปพระแท้ 0% [0]
จากรูปพระแท้แต่ข้อมูลไม่ถูกต้อง     0% [0]
จากรูปพระเก๊ 0% [0]
พระดูยากจากรูป 0% [0]

จำนวน โหวต



ชื่อพระเครื่องหลวงพ่อกล้าย วัดหงษ์รัตนาราม พิมพ์พระสมเด็จเนื้อดำ เนื้อผงใบลาน 2490
รายละเอียดหลวงพ่อกล้าย วัดหงษ์รัตนาราม พิมพ์พระสมเด็จเนื้อดำ เนื้อผงใบลาน 2490
ประวัติพระครูพรหมยานวินิต ( กล้าย ทิบภักดี )
อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหงส์รัตนารามราชวรวิหาร เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานคร ท่านเกิดเมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2434 เวลา 6.50 น ณ บ้านกระดาษ หมู่ที่ 1 ตำบล มดแดง อำเภอ ศรีประจันต์ จังหวัด สุพรรณบุรี บิดาชื่อนายเฉย มารดาชื่อนางกล่ำ ทิบภักดี มีน้องสาวชื่อเพริ้ง ใยเพรช ม่านได้บรรพชาและอุปสมบท เมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2453 ณ พัทธสีมาวัดโบสถ์ อำเภอวิเศษไชยชาญ จังหวัดอ่างทอง เมื่อเวลา 13.30 น โดยพระอธิการเนตร วัดโบสถ์เป็นพระอุปัชฉายะ พระอาจารย์พลอย วัดโบสถ์เป็นพระกรรมวาจารย์และพระอาจารย์พักตร์ วัดโบสถ์เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้ฉายา "สุวณุณหุโส" เมื่ออุปสมบทแล้วได้ศึกษาวิชาอาคมจากหลวงพ่อพักตร์ วัดโบสถ์ เนื่องจากหลวงพ่อพักตร์ เป็นพระน้องชายของพระรัตนมุนี (บาง) อดีตเจ้าอาวาสวัดหงส์รัตนาราม ซึ่งหลวงพ่อพักตร์เคยไปศึกษาวิชาอยู่ที่วัดหงส์รัตนารามมาก่อน นอกจากนี้หลวงพ่อกล้ายท่านยังได้ศึกษาวิชาจากอาจารย์ท่านอื่นอีกหลายองค์ ที่ทราบก็คือหลวงพ่อโหน่งวัดคลองมะดัน พระสังวรานุวงศ์ (ชุ่ม) วัดราชประสิทธารามและยังทันกับหลวงพ่อปาน วัดบางนมโคอีกด้วย หลังจากที่ได้ร่ำเรียนวิชาต่างๆมาพอสมควรแล้วหลวงพ่อกล้าย ท่านได้ย้ายมาจำพรรษาอยู่ที่วัดศรีจันต์ ซึ่งเป็นวัดบ้านเกิดของท่านและได้เมตตาช่วยเหลือชาวบ้านที่ทุกข์ร้อน โดยใช้พรหมวิหาร 4 ไม่อวดตนข่มผู้อื่น ผู้ใดที่ทุกข์ร้อนมาหาท่านก็ได้รับการช่วยเหลือโดยไม่แบ่งชั้นวรรณะจึงเป็น ที่รักของชาวบ้านจำนวนมาก ภายหลังได้ย้ายมาจำพรรษาที่ วัดหงส์รัตนารามโดยท่านได้รับสมณศักดิ์ที่ "พระครูพรหมยานวินิจ" ชั้นโท และในปี 2500 จึงได้เลื่อนชั้นเอกในนามเดิม ตำแหน่งผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหงส์รัตนารามราชวรวิหาร ส่วนการสร้างพระท่านได้สร้างพระเมื่อประมาณ ปี 2468 เป็นต้นมา โดยใช้ยันต์ "อุ" และ ยันต์น้ำเต้า "อิติอุนิ" เป็นยันต์ประจำตัวส่วนยันศรี และยัน นะ นั้นท่านไม่ค่อยได้ใช้มากนัก ( ยันศรี เคยใช้ลงถาดทองเหลือง งานสร้างวัตถุมงคลที่วัดราชโอรส ปี 2508 ) โดย ยันต์ "อุ" ย่อมาจาก "อุณาโลมาปะนะชายะเต อะสังวิสุโลปุสะพะภะ" และยันต์น้ำเต้า "อิติอุนิ"ย่อมาจาก อิ คือ อิสะระนัง โลเกเสฐฐัง ติ คือ ติสะสัพพะ สัพพา อุตตะยะนัง อุ คือ อุเบกขาอังคะสัมภะวัง นิ คือ นิพานัง ปรมังสุขขัง โดยใช้ยันต์ทั้ง 2 นี้ เป็นหัวใจพระคาถาที่หลวงพ่อกล้าย ได้ศึกษาและได้ภาวนาขณะปลุกเสกพระเครื่องของท่านให้มีความเข้มขลังพระที่ ท่านสร้างมีเนื้อผงและเนื้อดินเผา โดยมีผงของสมเด็จพุฒาจารย์ (โต) วัดระฆัง ผงพระขุนแผน วัดบ้านกร่าง ผงหลวงพ่อเนียมวัดน้อย ผงจากกรุวัดตาล ( อาจารย์คงซึ่งเป็นอาจารย์ของขุนแผน ) ผงใต้ประธานวัดไก่เตี้ย ผงของหลวงพ่อพักตร์ วัดโบสถ์ ซึ่งเป็นอจารย์ของท่าน ผงของหลวงพ่อแฉ่งวัดบางพัง ผงของหลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี ผงของพระครูใบกีฎาเกลี้ยง วัดสุทัศน์ ผงที่ท่านลบเขียนเอง ดินจากที่ต่างๆเช่น ดินปิดรูหนู รูปู ดินรังหมาล่าที่ปิดหู ตา จมูก ปากของพระอิธิมงคลต่างๆ นอกจากนี้ยังมีผงของหลวงพ่อเส่ง วัดกัลยาณมิตร ผงของหลวงพ่อแซมวัดนวงนรดิศ ผงของหลวงพ่อสดวัดปากน้ำ ผงของสมเด็จพระสังฆราช ( ป๋า วัดโพิ์ท่าเตียน ) ผงของพระวัดผลับ ดินหนองช้างตาย กิ่งอำเภอด่านช้าง จังหวัดสุพรรณบุรี ดิน 7 โป่ง 7 ท่าผงตะใบพระกรื่งของสมเด็จพระสังฆราชแพ ที่พระครูปรุงมอบให้ ส่วนเนื้อชินได้จากพระของหลวงเนียมวัดน้อย และ ตะปูสังขวานร จากขุนโพที่นำมาถวาย สิ่งที่ขาดไม่ได้คือ ว่านยาและเกษรดอกไม้ 108 ดินขุยปูและดินปลาไหลเผือก ผสมปูนเปลือกหอย กล้วย และ น้ำตาล ตำสาวนผสมทั้งหมดจนละเอียดได้ที่ แล้วจึงกดเป็นพิมพ์พระ อนึ่งพระของท่านมักใช้ วิชาปลุกเสก เตโชกสิน(ไฟ) ปลุกเสก จึงมีสีขาวดำและแดง ท่านสร้างพระมาจนถึงปี 2505 จึงได้เลิกสร้างเนื้องจากท่านชราภาพ และท่านยังสร้างพระแจกแก่สาธุชนโดยไม่คิดมูลค่าแต่อย่างใดพระเครื่องที่ท่าน สร้างแจกนั้น เพื่อเป็นการบำรุงขวัญและกำลังใจให้สาธุชนยึดมั่นในพระพุทธศาสนา สร้างความดีละเว้นความชั่ว และต่อมาจนเมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2510 ท่านก็ได้มรณะภาพอย่างสงบ สิริรวมอายุได้ 76 ปี แต่ยังคงเหลือคุณงามความดีให้สาธุชนทั้งหลายได้ระลึกถึงท่านไว้ส่วนพระ เครื่องที่ท่านสร้างแจกนั้น น่าเสียดายใครที่ได้รับแจกไว้เก็บไว้ต่างก็หวงแหน และัไม่ค่อยได้นำออกมาให้บูชากัน จึงไม่ค่อยมีใครรู้จักพระเครื่องของท่านมากนัก ทั้งที่มีมากมายหลายแบบ หลายพิมพ์ มีจำนวนทั้งหมดประมาณ 50000 องค์ และเนื้อชินไม่เกิน 1000 องค์ แม่พิมพ์ด้านหน้าของท่านได้ให้พระเกจิที่นับถือกันนำไปทำใหม่แต่เปลี่ยน ยันต์ที่ด้านหลัง ที่สืบมาได้คร่าวๆคือ หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี หลวงพ่อถิร วัดป่าเลไลย์ นอกจากนั้นท่านยังได้สอนวิชาต่างๆให้กับเกจิอาจารย์ที่ทราบคือ หลวงพ่อนิ่ม วัดพุทธมงคล หลวงพ่อเชิญ วัดโคกทอง ตัวอย่างพระที่สมเด็จพระครูกล้ายได้สร้างไว้ครับ หลวงพ่อกร้าย วัดหงษ์รัตนาราม ท่านเป็นชาวสุพรรณบุรีแต่มาอยู่เป็นพระลูกวัดที่วัดหงษ์ เป็นพระเกจิที่ชาวบ้านในละแวกนั้นนับถือมาก สันนิษฐานว่าท่านเป็นศิษย์ยุคท้ายๆของหลวงพ่อโหน่ง วัดคลองมะดันด้วย และทันกันกับหลวงพ่อปาน วัดปานนมโค ประวัติท่านหาข้อมูลค่อนข้างยากพอสมควร รู้แต่ว่าท่านได้สร้างพระไว้แจกจ่ายลูกศิษย์ประมาณปีพ.ศ.2490กว่าๆ พระของท่านจะมีประสบการณ์มาก ลูกศิษย์ที่ได้รับแจก จะไม่ยอมแบ่งออกให้ใคร ทำให้คนรู้จักกันน้อย ท่านจะแจกพระแค่แถววัดหงษ์ ย่านฝั่งธนและที่จังหวัดสุพรรณบุรีเท่านั้น ท่านใช้ยันต์น้ำเต้าที่ด้านหลัง ทำให้วงการและคนทั่วไปเดาสุ่มว่าเป็นพระของท่านเจ้าคุณนรฯ องค์นี้เป็นพิมพ์พระสมเด็จ เนื้อดำ คลุกรัก ถ้าโดนบูชาขึ้นคอสัมผัสไอเหงื่อจะมันวาวงาม มีเนื้อขาวและเนื้อดำ องค์นี้สภาพสวยสมบูรณ์ ไม่โดนใช้มาก่อน มองเห็นหน้าตาได้ชัดเจน มียันต์เป็นเอกลักษณ์ของหลวงพ่อกร้ายด้านหลังชัดเจน พระพ.ศ.ลึกๆและมีประสบการณ์มากแบบนี้หายากครับ พระของหลวงพ่อกร้ายเป็นพระที่มีพุทธคุณครบทุกด้าน เมตตา แคล้วคลาด คงกะพัน แถมโชคลาภ ตามแบบฉับบของทางสายหลวงพ่อเนียม หลวงพ่อโหน่ง ดูได้จากพระของหลวงพ่อปาน หลวงพ่อขอมเป็นหลัก
ราคาเปิดประมูล240 บาท
ราคาปัจจุบัน250 บาท (!!! ปิดประมูลแล้ว !!!)
เพิ่มขึ้นครั้งละ10 บาท
วันเปิดประมูล - 11 ก.พ. 2564 - 15:11:19 น.
วันปิดประมูล - 13 ก.พ. 2564 - 17:47:28 น. (ปิดประมูลแล้ว)
ผู้ตั้งประมูลบางกะปิ (851)


(0)
 
ราคาปัจจุบัน :     250 บาท
เพิ่มขึ้นครั้งละ :     10 บาท

!!! ปิดประมูลแล้ว !!!

ผู้ชนะประมูล    Dech1 (245)

 

Copyright ©G-PRA.COM