(0)
วัวธนู หลวงพ่อพุฒ วัดกลางบางพระ จ.นครปฐม เนื้อครั่งพุทรา ปี2530-2539 ตัวเล็กสภาพสวย พร้อมเลี่ยมกันน้ำ พร้อมบัตรรับรองสมาคมพระเครื่องพระบูชาไทย








รายงานผลโหวต

จากรูปพระแท้ 0% [0]
จากรูปพระแท้แต่ข้อมูลไม่ถูกต้อง     0% [0]
จากรูปพระเก๊ 0% [0]
พระดูยากจากรูป 0% [0]

จำนวน โหวต



ชื่อพระเครื่องวัวธนู หลวงพ่อพุฒ วัดกลางบางพระ จ.นครปฐม เนื้อครั่งพุทรา ปี2530-2539 ตัวเล็กสภาพสวย พร้อมเลี่ยมกันน้ำ พร้อมบัตรรับรองสมาคมพระเครื่องพระบูชาไทย
รายละเอียดวัวธนู หลวงพ่อพุฒ วัดกลางบางพระ จ.นครปฐม เนื้อครั่งพุทรา ปี2530-2539 ตัวเล็กสภาพสวย พร้อมเลี่ยมกันน้ำ พร้อมบัตรรับรองสมาคมพระเครื่องพระบูชาไทย

## สุดยอดวัวธนู หลวงพ่อพุฒ วัดกลางบางพระ สายวิชาหลวงพ่อน้อยวัดศีรษะทอง ##

..พระครูสุนทรวุฒิคุณ (หลวงพ่อพุฒ สุนทโร) อดีตเจ้าอาวาสวัดกลางบางพระ ตำบลบางพระ อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม
นาม เดิมนั้นท่านมีชื่อว่า พุฒ นามสกุล หาญสมัย เกิดเมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2453 ตรงกับวันศุกร์ขึ้น 13 ค่ำ เดือน 12 ปี จอ ณ บ้านเลขที่ 8 หมู่ที่ 4 ตำบลบางพระ อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม

..หลวงพ่อพุฒ ท่านก็มีความมุ่งมั่นในการศึกษาพระธรรมวินัย และเมื่อท่านมีโอกาส ท่านก็ศึกษาตำรับตำราต่าง ๆ ซึ่งค่อนข้างจะแปลกกว่าพระรูปอื่น เพราะท่านไม่ชอบปล่อยเวลาให้ล่วงไปอย่างไร้ค่า ซึ่งตำรับตำราในสมัยนั้นก็หายากไม่มีมากมายเหมือนในสมัยปัจจุบัน หนังสือที่ท่านให้ความสนใจเป็นพิเศษส่วนมากก็จะเป็นหนังสือประเภทธรรมะ และตำรายาแผนโบราณ และในปีแรกนั้น พ.ศ. 2489 ท่านก็สามารถสอบนักธรรมชั้นตรีได้ ต่อมาอีก 2 ปี คือในปี พ.ศ. 2491 ท่านก็สามารถสอบนักธรรมชั้นโทและชั้นเอกได้มาโดยลำดับ

..หลวงพ่อพุฒได้ศึกษาพระธรรมวินัย ตลอดจนวิชาคาถาอาคมต่าง ๆ รวมทั้งได้ออกธุดงค์ได้เพียง 6 พรรษา ในปี พ.ศ. 2495 เจ้าอาวาสองค์ที่ 6 แห่ง วัดกลางบางพระได้มรณภาพลงตามสังขาร ทางคณะสงฆ์ ชาวบ้าน ตลอดจนกรรมการได้นิมนต์หลวงพ่อพุฒ ขึ้นดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาสของวัดกลางบางพระเป็นองค์ที่ 7 สืบต่อมา ได้รับนามว่า “พระอธิการพุฒ” ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

## สุดยอดวัวธนู หลวงพ่อพุฒ วัดกลางบางพระ สายวิชาหลวงพ่อน้อยวัดศีรษะทอง ##

..วัสดุที่สำคัญที่สุดนั่นก็คือ "ครั่งพุทรา"ที่เกาะอยู่บนกิ่งพุทราชี้ไปทางทิศตะวันออกอย่างน้อยจาก 3 ต้นขึ้นไป ตาม ตำราของสมเด็จพระพนรัตนได้ระบุไว้อย่างชัดเจนว่า ต้องเป็นกิ่งที่ชี้ไปทางทิศตะวันออกเท่านั้น จึงจะใช้ได้ ถ้าเป็นกิ่งที่ตายพราย ให้ใช้เพียงกิ่งเดียวก็พอ จะเพิ่มอิทธิฤทธิ์มากยิ่งขึ้น มีอยู่ครั้งหนึ่งที่หลวงพ่อพุฒได้เดินทางไปที่อำเภอเถินและได้เข้าไปในป่า พุทราได้พบครั่งเกาะอยู่บนกิ่งพุทราป่าที่ชี้ไปทางทิศตะวันออกตายพรายอยู่ หลายสิบกิ่ง ท่านจึงให้ลูกศิษย์ขึ้นไปตัดและนำมาสร้างเป็น "วัวธนูครู" ตัวใหญ่ไว้ประจำตัว บูชาอยู่บนหิ้งในห้องส่วนตัวของท่าน ท่านบอกว่าวัวครูตัวนี้ไว้ควบคุมวัวธนูทุกตัว ทุกครั้งที่ท่านจะทำการสร้างและปลุกเสกวัวธนูจะต้องนำ "วัวธนู" ร่วมเป็นประธานในการปลุกเสกด้วยทุกครั้ง

..ตอนนี้กลับมาที่วัตถุประกอบ การสร้าง "วัวธนู" ต่อไป เมื่อหาครั่งพุทราเกาะกิ่งชี้ไปทางทิศตะวันออกได้แล้ว สิ่งที่ต้องจัดหาอีกก็คือ ลวดทองแดง และแผ่นทองแดง นำไปตัดทำโครงซึ่งเป็นโครงชั้นในทำง่ายๆ โดยดัดให้เป็นแกนตัว ขา คอ หาง และขา โครงตัวช่วงคอบรรจุตะกรุดในพิธีก่อนนำเอาครั่งห่อหุ้ม ตะกรุดดังกล่าวลงอักขระเหล็กจารและม้วนในพิธีนั้น และต้องเตรียมแป้งเจิม แผ่นทองคำเปลวไว้ปิดตรงหน้าผากด้วย ขั้นตอนต่อไปต้องจัดเตรียมโรงพิธี และเครื่องบัดพลี สำหรับโรงพิธีจัดทำในโบสถ์มีราชวัตรฉัตรธง ส่วนภายนอกด้านหน้าโบสถ์ มีการสร้างเป็นชั้นแคร่สูงเพื่อวางเครื่องบัดพลีด้วย มีการชุมนุมเทวดา เครื่องสังเวยประกอบด้วยหัวหมู บายศรี อาหารคาวหวาน ตลอดจนผลไม้ เช่นมะพร้าวอ่อน กล้วยน้ำว้า ปูลาดด้วยผ้าขาว ปักธง 7 สี ขันลงหินใส่น้ำ

..เมื่อ เตรียมการเสร็จ พอได้ฤกษ์ยามตามกำหนด หลวงพ่อจะจัดแจงบูชาครูเข้าสูปะรัมพิธีสร้างวัว ส่วนผู้ที่จะเข้าร่วมพิธีปั้นวัวต้องเป็นพระทั้งหมด พระที่เข้าร่วมพิธีต้องปลงอาบัติก่อน แล้วท่านก็เอาครั่งทั้งหมดหยิบบริกรรมใส่ลงกระทะ ให้พระทำการเคี่ยวครั่ง ส่วนท่านจะนั่งบริกรรมคาถาตลอดเวลา จนกระทั่งครั่งละลายแล้วจึงนำผงพุทธคุณโรยใส่ผสมกวนให้เข้ากัน จากนั้นหลวงพ่อพุฒก็เรื่มจารอักขระในแผ่นทองแดงม้วนเป็นตะกรุด แล้วบรรจุที่ลวดทองแดงตรงช่วงคอ แล้วให้พระช่วยกันหยิบครั่งมาพวกปั้นเป็นรูปวัว ส่วนหลวงพ่อจะนั่งบริกรรมคาถาอยู่ในประรัมพิธี เมื่อปั้นได้ครบตามฤกษ์ ก็นำวัวมาตั้งเรียงกันโดยมี "วัวครู" วางข้างหน้า แล้วหลวงพ่อก็ทำพิธีปลุกเสกเมื่อเสร็จแล้วท่านจะใช้ทองคำเปลวปิดตรงหน้าผาก พร้อมกับเจิมด้วยแป้ง แล้วประพรมน้ำมนต์เป็นอันเสร็จพิธี

..การสร้าง วัวธนูของหลวงพ่อพุฒแต่ละครั้ง ท่านบอกทำยากมาก กว่าจะหาครั่งพุทราได้ บางครั้งเดินทางไปไกลเช่น อุตรดิตถ์ ลำปาง นครราชสีมา ฯลฯ บางคราวเดินทางไปเอาครั่งได้เพียงกิ่งเดียวเท่านั้น กว่าจะรวบรวมสะสมครบตามกำหนดต้องใช้ระยะเวลาแรมปี บางปีไม่ได้เลยก็มี วัวธนูที่หลวงพ่อพุฒได้สร้างขึ้น มี 2 ขนาดคือ ขนาดตัวใหญ่ไว้บูชาอยู่กับบ้าน ขนาดตัวเล็กใช้ห้อยคอติดตัว

..หลวงพ่อพุฒท่านว่าจะสร้างแต่ละครั้งทำได้ยากมาก ต้องหาฤกษ์หายาม หาครั่งเกาะกิ่งพุทรากิ่งชี้ไปทางทิศตะวันออก บางครั้งจึงให้ลูกศิษย์ที่อยู่ต่างจังหวัดหามาให้ มิฉะนั้นวัวธนูจะไม่ขลัง มีคนจะมาขอเช่าไปบูชาวัวธนูทีละหลายๆตัว หลวงพ่อพุฒบอกไปว่า เอาไว้แงให้คนอื่นเขาบ้าง บางคนเดินทางมาไกล หากไปหาเกิดไม่ได้สงสารเขานะ นับว่าหลวงพ่อท่านเมตตาต่อทุกคนที่เข้าไปหา ไม่ว่าใครก็ตามหากมีโอกาสเดินไปกราบนมัสการ รับประกันได้ไม่มีผิดหวังครับ ปัจจุบันท่านมรภาพแล้วครับ

..ในวันแรกที่นำวัวธนูหรือควายธนูเข้า บ้านให้บอกกล่าวเจ้าที่ของเราก่อนจากนั้น จุดเทียน 1 คู่ ธูป 4 ดอก ว่าโองการวัวธนู 7 จบ คาถาวัวธนู 4 จบ
โดยอาจทำทุกวันพระหรือวันพระ 15 ค่ำ ตำราท่านว่าถ้าจะให้ขลังให้บูชาทุกวันเสาร์หรืออังคาร วัวจะมีฤทธิ์มากขึ้น โดย2วันนี้ไม่ต้องว่าโองการ ว่าคาถาวัวธนูอย่างเดียว

## พุทธคุณเด่นทางป้องกันคุ้มครองเฝ้าบ้านกันคุณไสยอวิชชา และเป็นเมตตามหานิยมค้าขายด้วย ##

คาถาโองการวัวธนู [เป็นภาษาลาว จากคัมภีร์หลวงพ่อน้อย วัดศรีษะทอง]

อมโคโน งัวทะนู ผู้หน้ายาว กว้างศอก
ตาปอก ฮอบเขาเสมน
กูผาบสาม แผ่นฟ้าก็ตก
กูผาบหก แผ่นฟ้าก็อ่อนค้อมมา
สู่สมพานกูทั้งค่าย บ่อทำฮ้ายแก่กูสู
ชาวเมืองบนแลลุ่มฟ้า ถ้วนหน้าให้มาถวาย
ตัวกูมาก บ่อให้ยาก หมู่ทาสาทาสี
ให้กูมีไซทุกค่ำซ้าว ให้กูได้เป็นเจ้า
ไผจักเจ้าให้มาโลมเลี้ยงกู
ให้อ่อนอ่อนฮ้อยท่อนท้าวมาถวายกูยียาบ
กูจักผาบแพ้สับพะหมู่ศัตรู
งัวทะนูเป็นวัสสุโพลาด
อาจพาบแพ้เท่าซึงซม
ภูอมกูจะให้นก นกก็ฮ้อง
อมกูจะให้ฆ้อง ฆ้องก็ดัง
อมกูจะให้คน คนก็ฮ้องซักไซ่คิดถึงกู
ซาวซมภูฮักฮูบกูสู่คน ฮูป
ปู่กูให้แทนเมืองสมพานเซืองคงขอบพัยฟ้า หมู่มนตรี
ให้เขาอ่อนหากู ดังซ้างอ่อนขอ
ให้อ่อนหากู ปานปอแสนน้ำอม
โฟเฟ้าอมโพเจ้าเข่าสู่โพโซ
อมเมตตัยยะ มาเป็นครูกู
กูจักปุกงัวทะนูให้ลุก รักษาลือซา
อมสวาหะ
สวด 7 จบ [สำเนียงลาวต้องคงไว้ เพื่อความขลังแบบดั้งเดิม]

. . . .

คาถาบูชาวัวธนู

อมอุดเทตะยัง สะนะทิ
อมงัวทะนู ลูกแม่เฒ่า รักษาเจ้าจงดี
ผีสางสะเด็ดหนี ขวักคว้าน
อมโคโน มะหาโคโน
อมโคโส มะหาโคโส
สันทะ สันทิ จันติ
อมมะหา หิริโอตัปปะมัมปันโน
สัปปุริสาโลเก เทวะธัมมาติอุจจะเร
เวทาสากุ กุสาทาเว
ทายัสสะ ตะทะสา
ทิกุกุ ทิสาสา
กุตะกุ ภูตะพุ
โคสวาหะ โสตถิเต โหนตุ
ชัยยะ มังคะลานิ
สวด 4 จบ

. . . .

คาถาวัวธนูเฝ้าบ้าน

นะภาเวนุ นะภาเวนุ
เวทาสากุ กุสาทาเว
ทายัสสะ ตะทะสา
ทิกุกุ ทิสาสา
กุตะกุ ภูตะพุ
โคสวาหะ โสตถิเต
โหนตุ ชัยยะมังคะลานิ
นุภานะเวนะ นุภานุเวนะ
เวภานะนุ เวภานะนุ
ภานะนุเว ภานะนุเว
นะนุเวภา นะนุเวภา
นะภาเวนุ นะภาเวนุ

เสก พระคาถานี้ทำน้ำมนต์รดบนหลังวัวธนู แล้วรองน้ำนั้นเอาไว้ แล้วนำน้ำที่ได้ไปประพรมรอบบริเวณบ้าน จากนั้นเมื่อออกจากบ้าน ก็บอกกล่าวแก่วัวธนูให้เฝ้าบ้าน
ราคาเปิดประมูล2,450 บาท
ราคาปัจจุบัน2,500 บาท (!!! ปิดประมูลแล้ว !!!)
เพิ่มขึ้นครั้งละ50 บาท
วันเปิดประมูล - 26 พ.ค. 2566 - 21:56:10 น.
วันปิดประมูล - 28 พ.ค. 2566 - 05:40:43 น. (ปิดประมูลแล้ว)
ผู้ตั้งประมูลferluci (3.4K)


(0)
ข้อมูลเพิ่มเติม 1 - 26 พ.ค. 2566 - 21:56:35 น.



1


 
ราคาปัจจุบัน :     2,500 บาท
เพิ่มขึ้นครั้งละ :     50 บาท

!!! ปิดประมูลแล้ว !!!

ผู้ชนะประมูล    nengsilk (370)

 

Copyright ©G-PRA.COM