(0)
พระรูปหล่อโบราณ หลวงพ่อเงิน บางคลาน ออกวัดท่ามะไฟ พิมพ์ใหญ่ ไม่มีกริ่ง








รายงานผลโหวต

จากรูปพระแท้ 0% [0]
จากรูปพระแท้แต่ข้อมูลไม่ถูกต้อง     0% [0]
จากรูปพระเก๊ 0% [0]
พระดูยากจากรูป 0% [0]

จำนวน โหวต



ชื่อพระเครื่องพระรูปหล่อโบราณ หลวงพ่อเงิน บางคลาน ออกวัดท่ามะไฟ พิมพ์ใหญ่ ไม่มีกริ่ง
รายละเอียดหลวงพ่อเงินบางคลาน พระพิมพ์แปลกโบราณ แห่งกรุวัดท่ามะไฟ จ.พิจิตร

เนื้อทองเหลืองเก่าสภาพสวย ขนาด 2.5 x 3.5 ซม. กริ่งดังดี หายากสุดๆ ครับ เมื่อประมาณปี ๒๔๖๐ หลวงพ่อเงิน ท่านได้ไปเป็นประธานหล่อพระหลวงพ่อเงิน พิมพ์โบราณที่วัดท่ามะไฟ ห่างจากวัดบางคลาน 10 กม. พิมพ์โบราณ ชุดนี้ ว่ากันว่าท่านได้เทหล่อ ก่อนรุ่นพิมพ์นิยม พิมพ์ขี้ตาด้วย เป็นพระที่ไม่คอยนิยมนักในหมู่เซียนพระในสมัยอดีต แต่ปัจจุบัน เซียนพระแถวๆ พิจิตร อุตรดิตถ์ และแถบภาคกลางตอนบน ตลอดจนภาคเหนือ หาเก็บกันมาก ปัจจุบันราคาเปิดอยู่ที่ 15000 บาทแล้ว และอาจมีสถิติสูงขึ้นเรื่อยๆ ใครไม่มีก็รีบเก็บนะครับ

### ทีนี้มาลองดูผู้ที่ศึกษาหลวงพ่อเงินพิมพ์นี้พูดกันไว้ ผมได้รวบรวมมาจากหลายๆ ที่ เพื่อผู้ที่ต้องการค้นคว้าจะได้มีข้อมูลหลากหลายขึ้น....ท่านผู้อ่านต้องพิจารณากันเอาเองนะครับ....เพราะผู้ที่รู้จริงเรื่องนี้ ก็ยังไม่ได้เผยแพร่แก่สาธารณชนทั่วไปให้ได้รับทราบครับ ###

เป็นพระเครื่องขนาดหน้าตักราวๆ 1 นิ้ว เนื้อจัดจ้านน่าดู ว่ากันว่าหลวงพ่อเงินท่านสร้างมาก่อนพิมพ์นิยม หรือ พิมพ์ขี้ตา นั่นคือพระต้องมีอายุราวร้อยกว่าปีมาแล้ว เคยถามผู้รู้ ท่านว่าสร้างที่วัดตองปุ หรือ วัดชนะสงคราม ในสมัยนี้ คนโบราณจะเรียกว่าพิมพ์นี้ว่า พิมพ์แจกข้าหลวง ท่านสร้างเยอะมาก และพุทธคุณครบถ้วนทุกด้านตามแบบฉบับของหลวงพ่อเงิน (เชื่อไม่เชื่อ ไม่รู้นะครับ แต่เช็คพุทธคุณแล้วแรงกว่าพิมพ์นิยมกับพิมพ์ขี้ตา) ถือว่าเป็นของดีราคาเบาๆ ที่จะมาแนะนำกันในวันนี้

ของแท้เนื้อจะแล ดูเก่า ซึ้งตา และมีธรรมชาติของคราบเบ้า อย่างชัดเจน ส่วนของปลอมมีทำออกมาตั้งแต่ตอนกรุแตก ส่วนใหญ่ที่ระบาดหนักจะเป็นเนื้อทองเหลืองครับ แต่แลดูองค์เล็ก ไร้เสน่ห์ในทุกๆด้าน แถมบางองค์ยังจุ่มรักมาอีก รักแลดูใหม่ บ่งบอกถึงความเก้ได้เป็นอย่างดี ถ้าเจอจงอย่าจับมาทีเดียวเชียว
มีเทคนิคนิดหน่อยคือว่า เวลาจะเช่าบูชาพระพิมพ์นี้ แนะนำให้ให้หาเนื้อสัมฤทธิ์ทั้งนี้เพราะ
- จำนวนสร้างไม่เยอะ หรือไม่น้อยไป หลักพันองค์ถือว่าพอหาได้ไม่ยาก เพราะคนไม่รู้ ว่าเป็นของดีมีอีกเยอะ
- สีจะสวยกว่าเนื้อทองเหลือง มีคราบเบ้า และผิวไฟชัดเจน
- ยังไม่เห็นของปลอมที่ฝีมือเด็ดขาด เพราะถ้าจะปลอม ทำเนื้อกลับมันไม่ยาก แต่ทำเนื้อจัดนั้นทำยากกว่ามาก ดังนั้นถึงทำปลอมก็ไม่เหมือน
- พิมพ์กลางๆ ไม่ใหญ่ไป พิมพ์สวยกำลังแขวน
ชื่อเป็นมงคล เพราะสัมฤทธิ์ แปลว่าสำเร็จ

เท่าที่เห็นมาจะมีพิมพ์ ใหญ่ กลาง และ เล็ก ทุกๆ พิมพ์มีทั้งอุดกริ่ง และ ไม่อุดกริ่ง ลักษณะการเจาะรูกริ่ง จะเจาะตรงฐาน หลังจากนั้นอุดด้วยโลหะชนิดเดียวกัน แล้วตะไบอีกรอบ เป็นอันเสร็จพิธี

เนื้อทองคำ ที่ว่าสร้างน้อย อันที่จริงจะว่าหายากก็ใช่ หาไม่ยากก็ใช่ เพราะถ้าคนดูกระแสทองเป็นเรียกว่าไม่ยากครับ ทั้งนี้เพราะอะไร ก็เพราะคนโบราณนั้น พอมีหล่อพระก็นิยมเอาทองคำเทลงไปหล่อด้วยเพราะจะได้บุญ เวลาใส่ก็จะใส่เบ้าหลอมแรกๆ ดังนั้น พระองค์ที่อยู่ก้นช่อแบบหล่อโบราณก็จะแก่ทอง พอฝังกรุไว้นานวันสนิมทองเกาะ ถ้าคนดูเป็น เอามาล้างดู จะพบของดีครับ
คำบอกเล่าของสามเณรสมัยหลวงพ่อเงิน

รูปหล่อนี้มีบันทึกใน ประวัติหลวงพ่อเงิน ซึ่งทางวัดจัดพิมพ์ตอนหนึ่งว่า "พุทธลักษณะพระของ หลวงพ่อเงินบางคลาน วัดหิรัญญาราม (วังตะโก) ต.บางคลาน อ.โพทะเล จ.พิจิตร มีลักษณะเป็นรูปพระสงฆ์นั่งแสดงสมาธิแบนรูปลอยองค์ ซึ่งจำลองมาจากรูปหล่อเนื้อโลหะองค์ใหญ่ประจำวัดเป็น เนื้อทองผสม พระรูปหล่อหลวงพ่อเงินนี้มีขนาดเขื่องกว่า รูปหล่พิม์นิยม และ พิมพ์ขี้ตา อยู่อีกแบบหนึ่งหน้าตักกว้างถึงประมาณ 1 นิ้ว มีทั้งภายในบรรจุเม็ดกริ่ง เขย่าแล้วเกิดเสียงดัง และใต้ฐานคว้านกว้างบรรจุผงซึ่งสำเร็จจากการเขียนอักขระเลขยันต์อันวิเศษ และวัตถุมงคลอาถรรพณ์ จากการเรียนถาม ลุงแปลก “สุขนันท์” ทราบว่า พระรูปหล่อหลวงพ่อเงินขนาดใหญ่หน้าตัก 1 นิ้วนั้น หลวงพ่อเงินท่านได้เดินทางเข้าไปในป่าลึก เพื่อแสวงหาแร่อาถรรพณ์ เช่น ขี้เหล็กไหล และเหล็กน้ำพี้ เป็นต้นการเทหล่อพระพิมพ์ขนาดเขื่องนี้จะเทครั้งละ 1 องค์แบบเบ้าหก และมีจำนวนไม่มากนัก เนื้อของแต่ละองค์จึงไม่เหมือนกันแบบเทเป็นช่อ บางองค์เนื้อเป็นทองดอกบวบแบบพิมพ์นิยม แต่ก็มีเป็นส่วนน้อยที่เป็นสำริดเงิน

พระหลวงพ่อเงิน กรุวัดท่ามะไฟ ต.ท่าเสา อ.โพทะเล จ.พิจิตร

เป็นพระที่หลวงพ่อเงิน สร้างเอาไว้ก่อนที่ท่านจะสร้างรุ่นพิมพ์นิยม และพิมพ์ขี้ตา เดิมทีว่าหลวงตาแจ๊ะ ซึ่งเป็นพระบวชใหม่ในวัดบางคลาน เป็นผู้แกะพิมพ์แล้วหล่อให้หลวงพ่อเงินปลุกเสก หลวงตาแจ๊ะ ท่านจะแกะออกมาเป็นพิมพ์ต่างๆ และแปลกๆ มีหน้านกฮูกบ้าง พิมพ์ตาโตบ้าง จนหลวงพ่อเงิน ท่านตำหนิเอา ว่าสร้างรูปของท่านออกมาแปลกๆ แต่หลวงตาแจ๊ะ ก็ทำออกมาเรื่อย เพราะความที่หลวงตาแจ๊ะ มีความศรัทธาในหลวงพ่อเงินมากนั่นเอง ทีนี้ทำออกมาหลายรุ่น แต่หลวงพ่อเงิน ก็ปลุกเสกให้ทุกรุ่นเหมือนกัน และเวลาที่หลวงพ่อเงิน เดินทางไปร่วมพิธีต่างๆ ที่วัดในแถบละแวก อ.โพทะเล หลวงพ่อเงิน ท่านจะนำพระรูปหล่อของท่านเหล่านั้นไปบรรจุไว้ในเจดีย์ตามวัดนั้นๆ ด้วย เช่น วัดห้วยเขน วัดทุ่งน้อย วัดท่ามะไฟ เป็นต้น

เมื่อเจดีย์เหล่านั้นแตก จึงทำให้เห็นพระหลวงพ่อเงิน พิมพ์แปลกๆ ออกมา เมื่อสมัยก่อนเซียนพระเก่าๆ ไม่ค่อยนิยมกัน แต่ปัจจุบันเป็นที่นิยมของเซียนพระแถวกำแพงเพชร พิจิตร พิษณุโลก หรือภาคกลางตอนบนแทบทั้งหมด เพราะมีประสบการณ์จากผู้ที่ห้อยหลวงพ่อเงิน กรุวัดท่ามะไฟนี้ขึ้นมา ทำให้ตามเก็บกันจนราคาหลักร้อย ขยับขึ้นมาจนเป็นหลักหมื่น และคาดว่าราคาจะขยับตัวขึ้นไปเรื่อยๆ อีกเช่นกัน

### แต่ข้อมูลจากคนในพื้นที่ เท่าที่รับรู้วัดท่ามะไฟไม่มีการเปิดกรุ
ในละแวกใกล้ๆ ที่เปิดกรุมี วัดโพทะเล วัดหนองดง วัดพังน้อย เท่านั้น ###



คัมภีร์ปถมัง คัมภีร์อิธเจ คัมภีร์ตรีนิสิงเห คัมภีร์มหาราช และ คัมภีร์พุทธคุณ อันเป็น 5 ตำรายันต์โบราณซึ่งมีพบเฉพาะภาคกลาง

"คัมภีร์ปถมัง" คือ ตำราเล่มแรกในการเล่าเรียนเรื่องเลขยันต์ เนื้อความในคัมภีร์กล่าวถึงการอุบัติของพระเจ้าทั้ง 5 พระองค์ การบำเพ็ญบารมี จนถึงสูญนิพพาน โดยผู้ศึกษาจะต้อง "เขียน" และ "ลบ" สัญลักษณ์ต่างๆ เริ่มต้นจาก พินทุ จากนั้นเกิดเป็นส่วนประกอบทั้ง 5 สำเร็จเป็นตัว นะ เรียกกันว่า นะพินทุ จากนั้นก็นมัสการ เสก แล้วลบเป็นอักขระ นะโมพุทธยะ จากนะโมพุทธายะ เป็น องค์พระภควัม เป็น มะอะอุ เป็น อุณาโลม ตามคัมภีร์ปถมังเรื่อยไปตามลำดับ จนกว่าจะถึง สูญนิพพาน ... เป็นอันสิ้นสุดตามตำรา โดยทั้งหมดจะต้องเขียน และลบบนกระดานเรื่อยไปจนจบ ลบครั้งหนึ่งกินเวลาหลายชั่วโมง ได้ผงเพียงไม่เกินหนึ่งช้อนเท่านั้น ผงปถมังที่ลบเสร็จแล้ว คนโบราณเชื่อว่ามีอานุภาพทางอยู่ยงคงกระพัน แคล้วคลาดกำบังกาย ตลอดจนล่องหนหายตัว เป็นตบะเดชะ จังงังป้องกันภยันตรายทุกประการ

"คัมภีร์อิธเจ" หรือ อิทธิเจ เป็นการลบผงตามสูตรพระมูลกัจจายน์ ซึ่งเป็นตำราไวยากรณ์บาลีโวราณ ตามวิธีการทำรูปศัพท์ของบาลีไวยากรณ์ อ้างสูตรบริกรรมทำตัวสระ พยัญชนะ มาสมาสสนธิกันจนสำเร็จเป็น อิ ธะ เจ ตะ โส ทัฬ หัง คัณ หา หิ ถา มะ สะ สะ ทำให้ผู้ศึกษามีความเข้าใจในเรื่องสระ พยัญชนะที่มีอยู่ในยันต์ต่างๆ ทำให้สามารถเรียนสูตรอักขระในยันต์ได้ไม่พลาด และยังช่วยให้เข้าใจการออกเสียงในคาถาบทต่างๆ ได้ถูกต้องมากขึ้น

"คัมภีร์ตรีนิสิงเห" มีหลักสำคัญอยู่ที่กลเลข 12 ตัว แบ่งเป็น 4 ชุด ชุดละ 3 ตัว และทุกชุดจะบวกกันได้เท่ากับ 15 ได้แก่ "375, 465, 195, 285" มีความหมายใช้แทนคุณพระตลอดจนเทพยดาในโลกธาตุ ผู้ศึกษาคัมภีร์ตรีนิสิงเหนี้ จะสามารถเข้าใจถึงที่มาของตัวเลขต่างๆ ที่มีอยู่ในยันต์ ผงที่ลบจากกลเลขในคัมภีร์ตรีนิสิงเห เชื่อกันว่ามีอานุภาพใช้ป้องกันคุณไสย และภูตผีปีศาจ การกระทำย่ำยีทั้งคุณผีคุณคนได้ทุกประการ ทั้งยังเป็นตบะเดชะมหาอำนาจ คงกระพันชาตรีทั้งคมอาวุธ และป้องกันสัตว์ร้าย ผู้ใดสำเร็จผงตรีนิสิงเหจะเป็นสีหนาท สามารถกำราบภูติผี ถอนทำลายอาถรรพ์ต่างๆ ได้

"คัมภีร์มหาราช" เป็นการลบนามของคนทั้งหลายที่กำหนดใช้แทนมนุษย์ทั้งปวง โดยตั้งเป็น เจ้า นาง ออ สัพเพชนา พหูชนา นามทั้ง 5 นี้เป็นสิ่งสมมติใช้แทนมนุษย์หญิงชายทิ้งปวงในโลก จากนั้นลบเป็น นะ โม พุท ธา ยะ ลบเป็น มะ อะ อุ ลงเป็น อุโองการ แล้วลบเป็นยันต์มหาราช ประกอบด้วยอักขระ "งะ ญะ นะ มะ" โบราณเรียกว่า หัวใจสนธิอันเป็นพยัญชนะตัวที่สุดวรรค และตัวพยัญชนะนาสิกในบาลีไวยากรณ์ การฝึกลบผงมหาราชจะทำให้ผู้ศึกษามีความเข้าใจเรื่องวิธีการลากเส้นของยันต์ ต่างๆ รวมถึงการนำเอาอักขระเข้าไปไว้ในยันต์ โดยผงที่ได้จากการลบยันต์ตามคัมภีร์มหาราช เชื่อกันว่ามีอานุภาพทางด้านมหานิยม อำนวยความเจริญรุ่งเรือง และเป็นเสน่ห์แก่ชนทั้งหลาย

"คัมภีร์พุทธคุณ" เป็นการลบอักขระจาก อิติปิโส บทต้นห้องพระพุทธคุณโดยใช้ พระอิติปิโสรัตนมาลา 56 บท ตั้งเป็นทีละอักขระ นับแต่ อิ ติ ปิ โส ภะ คะ วา เป็นต้นจนถึง ภะ คะ วา ติ ลบเป็น นะ โม พุ เป็น มะ อะ อุ แล้วลบเป็น อิ สวา สุ และลบเป็น โส ธา ยะ จากนั้นทำเป็นองค์พระ เสกด้วย พระคาถาพุทธนิมิต เรียกว่า "ผงพุทธคุณ" การฝึกลบอักขระตามคัมภีร์รัตนมาลา จะช่วยให้ผู้ศึกษาเข้าใจถึงอักษรในหมวด พุทธคุณที่ลงในยันต์ต่างๆ ส่วนผงที่ได้จากการลบอักขระในคัมภีร์พุทธคุณเชื่อกันว่ามีอานุภาพครอบ จักรวาล ทั้งทางคุ้มครองป้องกัน แล้วยังเป็นเมตตามหานิยมอีกด้วย

จุดเริ่มต้นของการหัดเขียนยันต์แล้วนั้น ไม่ว่าจะเป็นไปตามคัมภีร์โบราณฉบับไหน ต่างก็ต้องมีขั้นตอนสำคัญที่การ "ลบผง" เพื่อสะท้อนถึงพระธรรมขั้นสูงสุด อันเป็นความหมายที่แท้จริงที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังความเชื่อ ความศรัทธาของผู้คนนั่นก็คือ "ความว่างเปล่า"

พิมพ์โบราณหลวงพ่อเงิน แบ่งออกเป็น 2 พิมพ์

1. พิมพ์ด้านหลังมีริ้วจีวร (จะอุดกริ่ง) โดยช่างจีนจะเป็นผู้หล่อพิมพ์นี้

2. พิมพ์ด้านหลังไม่มีริ้วจีวร (จะไม่มีกริ่ง) โดยช่างชาวไทยจะเป็นผู้หล่อพิมพ์นี้

จำนวนการสร้างที่พอจะแยกได้ ดังนี้

1. เนื้อทองคำ (มีจำนวนน้อยมาก)

2. เนื้อเงิน (มีจำนวนประมาณ 30 องค์)

3. เนื้อสำริด (มีจำนวนประมาณ 1000 องค์)

4. เนื้อทองเหลือง (มีจำนวนประมาณ 10000 องค์)
ราคาเปิดประมูล100 บาท
ราคาปัจจุบัน1,200 บาท (!!! ปิดประมูลแล้ว !!!)
เพิ่มขึ้นครั้งละ100 บาท
วันเปิดประมูล - 04 มิ.ย. 2556 - 16:21:03 น.
วันปิดประมูล - 06 มิ.ย. 2556 - 14:15:31 น. (ปิดประมูลแล้ว)
ผู้ตั้งประมูลjackhamo (1.4K)


(0)
 
ราคาปัจจุบัน :     1,200 บาท
เพิ่มขึ้นครั้งละ :     100 บาท

!!! ปิดประมูลแล้ว !!!

ผู้ชนะประมูล    Ployplew (221)

 

Copyright ©G-PRA.COM